สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1653 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1633 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3197 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7660 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7678 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.68 เยน จากระดับ 113.17 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9973 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9953 ฟรังก์สวิส
ดอลลาร์ได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ พุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.8% และสูงกว่าระดับ 5.9% ในเดือนก.ค.
ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทะยานขึ้น สู่ระดับ 125.9 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 ซึ่งขณะนั้น ดัชนีอยู่ที่ระดับ 128.6
ตลาดการเงินจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักเศรษฐศาสตร์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล คาดว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% แต่อาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
นักลงทุนยังจับตาผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.