ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยตามคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 2, 2017 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1622 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1653 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3254 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3281 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7669 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7660 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.18 เยน จากระดับ 113.68 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9973 ฟรังก์สวิส

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% สู่ระดับ 94.772 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นภายหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยเฟดยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่พายุเฮอร์ริเคนไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

ดอลลาร์สหรัฐยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

ส่วนข้อมูลภาคบริการนั้น สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ปรับตัวสู่ระดับ 58.7 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 58.6 ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ จากระดับ 53.1 ในเดือนก.ย.

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า โดยล่าสุดสื่อต่างประเทศชั้นนำ ซึ่งรวมถึงวอลล์สตรีท เจอร์นัล, บลูมเบิร์ก และซีเอ็นบีซี ต่างก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจเลือกนายเจอโรม พาวเวล ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่

นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ