ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลัง ECB ส่งสัญญาณถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 13, 2018 08:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน และเยอรมนีบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาล

ยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับ 1.2182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2038 ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3534 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 0.7912 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7893 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.05 เยน จากระดับ 111.11 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9686 ฟรังก์ จากระดับ 0.9761 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนานาที่ระดับ 1.2486 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.94% สู่ระดับ 90.989

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลัง ECB เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะปรับใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น

รายงานการประชุมดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB จะตัดถ้อยคำที่ว่า "ECB จะซื้อพันธบัตรจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของ ECB" และเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB พร้อมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งมีมูลค่า 2.55 ล้านล้านยูโร โดยจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น

รายงานดังกล่าวแสดงว่า คณะกรรมการ ECB มองว่าการสื่อสารเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจะได้รับความสำคัญมากขึ้น ขณะที่การซื้อพันธบัตรจะมีบทบาทลดลงในฐานะเครื่องมือด้านนโยบายของ ECB

นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่ ECB ได้มีการหารือกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมหลังจากโครงการ QE สิ้นสุดลง บ่งชี้ว่าคณะกรรมการ ECB ให้การสนับสนุนมากขึ้นต่อการตัดสินใจยุติโครงการในปีนี้ หลังจากที่ได้ดำเนินการมานาน 3 ปี

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยบวก หลังจากสื่อเยอรมนีรายงานว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

แกนนำของทั้ง 3 พรรคจะนำรายละเอียดของข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายในประเด็นสำคัญต่างๆจำนวน 28 หน้าเสนอแก่สมาชิกพรรค ซึ่งพรรค SPD จะมีการประชุมสมาชิกพรรคในวันที่ 21 ม.ค. หากที่ประชุมให้การรับรองนโยบายเหล่านี้ และเห็นพ้องที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค CDU/CSU ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองของเยอรมนีนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ