ดอลลาร์ทรุดหนักวันนี้ หลังขุนคลังสหรัฐหนุนดอลล์อ่อนเอื้อประโยชน์เศรษฐกิจอเมริกา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 24, 2018 19:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักหลุดระดับ 110 เยนในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของยูโร ซึ่งดีดตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์

ณ เวลา 18.47 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.73% สู่ระดับ 109.48 เยน ขณะที่ยูโรดีดตัวขึ้น 0.37% สู่ระดับ 1.2343 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 1.2345 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และยูโรร่วงลง 0.35% สู่ระดับ 135.17 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.53% สู่ระดับ 89.64

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ว่า สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวเชิญชวนให้นักลงทุนเข้าลงทุนในสหรัฐ โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจมีการขยายตัว 3% หรือมากกว่า โดยสหรัฐยังคงเป็นแหล่งที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุน

นายมนูชินระบุว่า สหรัฐให้การสนับสนุนการค้าที่เสรี และเป็นธรรม และเสริมว่าการขยายตัวที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และไม่ขัดแย้งกับนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน"ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 139 เดือน หรือในรอบเกือบ 12 ปี จากระดับ 58.1 ในเดือนธ.ค.

ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการจ้างงานซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 รวมทั้งคำสั่งซื้อใหม่ที่พุ่งขึ้น

ทางด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.3 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2543 จากระดับ 0.5 จุดในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6 จุดในเดือนม.ค.

ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหภาพยุโรปดีดตัวขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 0.4 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2543 จากระดับ จากระดับ -0.6 จุดในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ