ดอลลาร์ปรับตัวแคบในกรอบบนของ 108 เยนในวันนี้ ขณะที่ถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 30 ม.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
ณ เวลา 22.15 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 108.79 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.33% สู่ระดับ 134.50 เยน และดีดตัวขึ้น 0.46% สู่ระดับ 1.2362 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.44% สู่ระดับ 89.46
ดอลลาร์ร่วงลงสู่ช่วงกลางของกรอบ 108 เยนในช่วงเช้า ตามการอ่อนค่าในการซื้อขายที่ตลาดการเงินนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวว่า บีโอเจใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้ตลาดการเงินมองว่าบีโอเจกำลังส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน
ต่อมาดอลลาร์สามารถฟื้นตัวขึ้น โดยได้คำสั่งซื้อจากกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น ก่อนที่จะลดช่วงบวกลงจากการร่วงลงของตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ทั้งนี้ การแถลงนโยบายประจำปีของปธน.ทรัมป์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในปีที่แล้ว โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN ก็จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
หัวข้อการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสของปธน.ทรัมป์คือ "การสร้างอเมริกาที่ปลอดภัย แข็งแกร่ง และน่าภาคภูมิใจ" โดยจะเน้นหนักใน 5 ประเด็นหลัก ซึ่งได้แก่ การจ้างงานและเศรษฐกิจ, การก่อสร้างโครงการพื้นฐานของประเทศ, นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ, การค้า และความมั่นคงแห่งชาติ
ทั้งนี้ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะเกริ่นนำด้วยการกล่าวถึงความสำเร็จในการบริหารประเทศของเขาในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะตลาดหุ้นทะยานขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการผลักดันจากมาตรการปรับลดภาษี และการปรับลดกฎระเบียบต่างๆ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามที่เขาได้เคยรณรงค์หาเสียงในปี 2559 โดยคาดว่า โครงการลงทุนในสาธารณูปโภคจะมีวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 กองทุนในช่วงเวลา 10 ปี
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจัดทำแผนการลงทุนวงเงิน 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะให้รัฐบาลของมลรัฐ และภาคเอกชนเข้าสนับสนุนเงินทุนในการสร้างและซ่อมสะพาน, ทางหลวง และสาธารณูปโภคทั่วประเทศ