ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก รับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 7, 2018 07:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวมากกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในตลาดการเงินของสหรัฐนั้น ได้ลดแรงบวกในระหว่างวัน หลังจากดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักๆของตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2391 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2400 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3958 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4001 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7887 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7901 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลารอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.36 เยน จากระดับ 109.71 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9361 ฟรังก์ จากระดับ 0.9356 ฟรังก์

ดอลลาร์ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 200,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ลดแรงบวกในระหว่างวัน เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในตลาดการเงินของสหรัฐ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 หลังจากที่ขาดดุล 5.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณ ก่อนที่งบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีนี้ โดยการลงมติครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) จำนวนกว่า 7 แสนคน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเลิกโครงการดังกล่าวภายในวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้มีการเนรเทศผู้อพยพเหล่านี้กลับประเทศ

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงของวันศุกร์ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) อีกครั้ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ