สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นและหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย
ยูโรแข็งอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2234 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2260 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3806 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3920 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7790 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7799 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.49 เยน จากระดับ 108.90 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9387 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9367 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.24% สู่ระดับ 90.442 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ความผันผวนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากข้อมูลด้านการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเมืองในสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนนเสียง 240-186 ทำให้การปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ได้สิ้นสุดลง หลังจากที่มีการชัตดาวน์เป็นเวลา 6 ชั่วโมงก่อนหน้านี้