ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในกรอบ 111 เยน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ณ เวลา 20.28 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.20% สู่ระดับ 111.66 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.54% สู่ระดับ 129.76 เยน และดีดตัวขึ้น 0.36% สู่ระดับ 1.1623 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.34% สู่ระดับ 95.12
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 61.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2547 จากระดับ 58.1 ในเดือนก.ค.
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ
การเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ได้ชะลอตัวลงในเวลาต่อมา ตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นญี่ปุ่น
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาในวันนี้
นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ในสัปดาห์นี้
"มีหลายเรื่องที่เราต้องการเห็นในการเจรจาข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่" นายทรูโดกล่าว
ทั้งนี้ ตัวแทนเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายจะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและเม็กซิโกสามารถเดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องมีแคนาดาในการทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความก่อนหน้านี้ ระบุว่า "ไม่มีความจำเป็นทางการเมืองที่จะให้แคนาดาอยู่ในข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ ซึ่งถ้าเราไม่สามารถทำข้อตกลงที่เป็นธรรมสำหรับสหรัฐ หลังจากที่ถูกเอาเปรียบมานานหลายสิบปี แคนาดาก็ต้องออกไป และสภาคองเกรสก็ไม่ควรเข้าแทรกแซงในการเจรจา มิฉะนั้น ผมจะยกเลิกข้อตกลง NAFTA โดยสิ้นเชิง ซึ่งจะเป็นเรื่องดีกว่าสำหรับเรา"