ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลงในวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนมองว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะไม่รุนแรงมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
ณ เวลา 22.29 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.11% สู่ระดับ 112.24 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.03% สู่ระดับ 131.01 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.1675 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ลบ 0.09% สู่ระดับ 94.55 ใกล้กับระดับ 94.308 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ทำไว้เมื่อวานนี้
ดอลลาร์พุ่งขึ้นเกือบ 6% นับตั้งแต่ที่สหรัฐและจีนเปิดฉากทำสงครามการค้า ขณะที่ตลาดการเงินมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และอุปสงค์ดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ให้ดีดตัวขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ชะลอตัวในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการผลักดันดอลลาร์ขึ้นต่อไป หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด
ส่วนปอนด์ดีดตัวขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรที่พุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ณ เวลา 17.31 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.27% สู่ระดับ 1.3183 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งทะลุระดับ 1.32 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. และขยับขึ้น 0.03% สู่ระดับ 0.8868 เทียบยูโร
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหราชอาณาจักร ปรับตัวขึ้นแตะ 2.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านเสื้อผ้า สันทนาการ รวมทั้งการขนส่งทางเรือและอากาศ
อัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค. ออกมาสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนก.ค.เป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI พุ่งแตะระดับ 3.1% ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี