ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขานรับข่าวที่ว่าผู้นำจีนและสหรัฐจะพบปะกันเพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า
ณ เวลา 22.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์บวก 0.29% สู่ระดับ 95.29 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.04% สู่ระดับ 112.12 เยน ส่วนยูโรปรับตัวลง 0.35% สู่ระดับ 129.58 เยน และร่วงลง 0.28% สู่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อาจเกิดขึ้นได้ หากรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการพบปะกันของผู้นำทั้งสองจะก่อให้เกิดประโยชน์
"มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าถือเป็นเครื่องมือเจรจาต่อรองที่สำคัญ ซึ่งถ้าการพบปะกันจะส่งผลบวกต่อทิศทางการเจรจาการค้า ผมก็เชื่อว่าท่านประธานาธิบดีจะสนับสนุนให้มีการจัดประชุมดังกล่าว" นายมนูชินกล่าว
คำกล่าวของนายมนูชินสอดคล้องกับที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทำเนียบขาวกำลังดำเนินการเพื่อให้มีการพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งจะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
การเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้น ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยสหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่เรียกเก็บภาษีสินค้าวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2 แสนล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้
หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ก็เท่ากับว่าสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่จีนส่งเข้าไปยังสหรัฐ โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐได้นำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 5.05 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว