ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า เก็งเฟดขึ้นดอกเบี้ย-วิตกเศรษฐกิจจีน, ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 15, 2018 08:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของยูโรและปอนด์ จากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของยูโรโซน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนได้กลับมามีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจีนได้เปิดเผยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1303 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1366 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2579 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2660 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7227 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.29 เยน จากระดับ 113.60 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9977 ฟรังก์ จากระดับ 0.9933 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3374 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3355 ดอลลาร์แคนาดา

นักลงทุนรอการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้ ขณะที่ตลาดจะจับตาการส่งสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจาต่อรองครั้งใหม่ต่อข้อตกลง Brexit กับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ขณะที่นางเมย์ได้ประกาศเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลง Brexit ออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดลงมติในวันที่ 11 ธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ