ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแสดงความพร้อมที่จะเปลี่ยนแผนลดงบดุล
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9864 ฟรังก์ จากระดับ 0.9885 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3394 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3480 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.52 เยน จากระดับ 107.75 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1398 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1391 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2740 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2629 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7116 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7002 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะพิจารณาการปรับตัวของภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุว่า เฟดจะไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการปรับลดงบดุล ถ้าหากว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลมีขึ้นในระหว่างการเสวนาเมื่อวานนี้ร่วมกับ 2 อดีตประธานเฟด คือ นางเจเน็ต เยลเลน และนายเบน เบอร์นันเก้ ในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐกิจอเมริกันที่รัฐแอตแลนตา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 312,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานดีดตัวสู่ระดับ 3.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ชะลอตัวสู่ระดับ 54.4 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 54.7 ในเดือนพ.ย. โดยการปรับตัวลงของดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐได้รับผลกระทบจากลดลงของคำสั่งซื้อใหม่ และความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ แม้ว่าการจ้างงานดีดตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว