ดอลลาร์และยูโรร่วงลงในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าที่ซบเซาของจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้มีแรงซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดัน จากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายพาวเวลระบุว่า เฟดสามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.45% สู่ระดับ 108.05 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.49% สู่ระดับ 123.90 เยน และอ่อนค่าลง 0.02% สู่ระดับ 1.1465 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.07% สู่ระดับ 95.60
ทางการจีนเปิดเผยว่า การนำเข้าลดลง 7.6% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น 5% ส่วนการส่งออกลดลง 4.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เพิ่มขึ้น 3%
ปอนด์ปรับตัวแคบเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ ก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะทำการลงมติต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 18.04 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่า 0.02% สู่ระดับ 1.2836 ดอลลาร์ และขยับขึ้น 0.03% สู่ระดับ 0.8923 เทียบยูโร
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ปอนด์จะปรับตัวผันผวนอย่างหนักในสัปดาห์นี้ โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัฐสภาอังกฤษลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU)
เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ปอนด์อาจพุ่งขึ้นถึง 4% เทียบเงินทุกสกุล หากรัฐสภาให้การอนุมัติร่างข้อตกลง Brexit
ส่วนโนมูระคาดว่า ปอนด์จะดิ่งลงมากกว่า 2% เทียบดอลลาร์ หากสภาคว่ำข้อตกลงดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ปอนด์ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปีในเดือนมิ.ย.2559 ซึ่งขณะนั้นชาวอังกฤษได้ลงประชามติแยกตัวออกจาก EU
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปอนด์พุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโร หลังมีข่าวว่า อาจมีการเลื่อนกำหนดวันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 29 มี.ค.62
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์อีฟนิ่ง สแตนดาร์ดของอังกฤษรายงานว่า รัฐมนตรีหลายรายในคณะรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวว่า มีแนวโน้มที่อาจมีการเลื่อนกำหนดวัน Brexit จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 29 มี.ค.62 เนื่องจากยังคงมีร่างกฎหมายจำนวนมากที่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU
รัฐมนตรีรายหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้ตารางการทำงานของสมาชิกรัฐสภาถือว่าตึงมากๆ และถ้าหากสภาคว่ำร่างกฎหมาย Brexit ในวันอังคารหน้า ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะมีการผ่านร่างกฎหมายทั้งหมดภายในวันที่ 29 มี.ค.
ขณะนี้ มีร่างกฎหมายอย่างน้อย 6 ฉบับที่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งได้แก่ ร่างกฎหมายการค้า, การเกษตร, การประมง, การเงิน, การตรวจคนเข้าเมือง และการประกันสุขภาพ
แหล่งข่าวระบุว่า แม้แต่การให้สมาชิกรัฐสภาเข้าทำงานในวันเสาร์-อาทิตย์ และให้ระงับการใช้วันหยุดช่วงปิดสมัยประชุมครึ่งวาระในเดือนหน้า สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้สมาชิกรัฐสภามีเวลาเพียงพอในการผ่านกฎหมายทั้งหมดได้ทันวันที่ 29 มี.ค.