ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก ขานรับข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 18, 2019 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.26 เยน จากระดับ 108.92 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9937 ฟรังก์ จากระดับ 0.9906 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3266 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3249 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1398 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2987 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2870 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7200 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7176 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 220,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

สำหรับปัจจัยอื่นๆที่มีส่วนช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์นั้น นายแรนดอล ควาร์ลส์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำ แม้ว่าตลาดการเงินมีความวิตกต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งได้แก่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งภาคธุรกิจของอังกฤษ ต่างออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติ Brexit ครั้งใหม่ โดยจะใช้ชื่อว่า "People's Vote"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ