ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินปอนด์ร่วงเทียบดอลล์ หลังศก.สหราชอาณาจักรขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 12, 2019 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรขยายตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ส่วนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2860 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2932 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1275 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1322 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7062 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.40 เยน จากระดับ 109.77 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0040 ฟรังก์ จากระดับ 0.9999 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3298 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3268 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์ร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า GDP ของสหราชอาณาจักรขยายตัว 1.4% ในปี 2561 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 และลดลงจากระดับ 1.8% ในปี 2560

ทั้งนี้ ONS คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวต่อไปในปีนี้ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของปัจจัยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ONS ยังระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับ Brexit ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายทางธุรกิจ

ส่วนในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมีการขยายตัวเพียง 0.2% ลดลงจากระดับ 0.6% ในไตรมาส 3 โดยการผลิตรถยนต์และเหล็กทรุดตัวลงมากที่สุด ขณะที่ภาคการก่อสร้างปรับตัวลงเช่นกัน แม้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะจัดประชุมเพื่อเจรจาการค้าร่วมกันที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนม.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ