ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลังปธ.เฟดย้ำแผนยุติปรับลดงบดุล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 28, 2019 07:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เน้นย้ำในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สองว่า เฟดจะยุติการปรับลดงบดุลภายในปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.03 เยน จากระดับ 110.52 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0010 ฟรังก์ จากระดับ 0.9990 ฟรังก์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3148 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3167 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1396 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3308 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3273 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7140 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7193 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายพาวเวลได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ โดยย้ำว่า เฟดพร้อมที่จะปรับรายละเอียดของการปรับลดงบดุล ซึ่งจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและการเงิน ส่วนในระยะยาว ขนาดงบดุลของเฟดจะถูกกำหนดจากอุปสงค์สำหรับการก่อหนี้ของเฟด ซึ่งได้แก่ สกุลเงิน และทุนสำรองธนาคาร

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดใกล้ที่จะประกาศกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดงบดุล และเขายืนยันว่าเฟดจะยุติการปรับลดงบดุลภายในปีนี้ หลังจากที่เฟดได้เริ่มการปรับลดงบดุลในเดือนต.ค.2560 โดยในขณะนั้นงบดุลของเฟดมีมูลค่าสูงกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ และขณะนี้อยู่ที่ระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในการปรับลดงบดุลนั้น เฟดจะปล่อยให้พันธบัตรจำนวนหนึ่งครบอายุโดยไม่มีการนำรายได้ไปลงทุนในพันธบัตรใหม่ ซึ่งวงเงินการปรับลดงบดุลสูงสุดคือ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานที่ว่าอังกฤษอาจเลื่อนกำหนดเวลาในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 29 มี.ค.

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้นเพียง 0.4%

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ม.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ