ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบเยน ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้
ณ เวลา 21.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.01% สู่ระดับ 108.54 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.27% สู่ระดับ 121.43 เยน และร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 1.1189 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.15% สู่ระดับ 97.70
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้และพรุ่งนี้
ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยมีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน ยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์และเยน หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย และซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
นายดรากีกล่าวว่า ECB อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หรือทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE หากเงินเฟ้อยังไม่แตะเป้าหมายของ ECB
ทั้งนี้ ECB ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%"
นายดรากียังระบุว่า หากเศรษฐกิจย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ECB ก็อาจประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อต้นเดือนนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกับระบุว่า ECB จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563