สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สกุลเงินบาท ซึ่งเคยเป็นต้นตอของวิกฤตการเงินในเอเชียในปี 2540 ปัจจุบันกลับกลายเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยที่สุดในภูมิภาค
ทั้งนี้ บาทยังคงปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพในเดือนนี้ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดที่เกิดจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ในขณะที่รูปีและวอนดิ่งลงเกือบ 3%
นักวิเคราะห์ระบุว่า บาทจะยังคงมีสถานะเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยในระยะนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่ไทยมีตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณเงินทุนสำรองสูงเป็นประวัติการณ์
"บาทยังคงเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย เนื่องจากเราไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการทำสงครามการค้าเหมือนกับประเทศอื่นๆในตลาดเกิดใหม่" นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าว
นายจิติพลคาดการณ์ว่า บาทจะแข็งค่าสู่ระดับ 30.25 เทียบดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้
ทางด้านนายซิม โม เสียง นักกลยุทธ์ปริวรรตเงินตราของแบงก์ ออฟ สิงคโปร์ กล่าวว่า ถึงแม้ไต้หวันและเกาหลีใต้มีตัวเลขการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเช่นกัน แต่ไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงในแง่ของห่วงโซ่อุปทานจากการทำสงครามการค้า
นอกจากนี้ นายคูน โก๊ะ หัวหน้าส่วนวิจัยเอเชียของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า "บาทได้กลายเป็นที่หลบภัยสำหรับนักลงทุนในภูมิภาคในยามที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยการปรับตัวของบาทในระยะนี้เป็นประจักษ์พยานถึงเรื่องดังกล่าว"