ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินปอนด์พุ่ง หลังสภาอังกฤษไฟเขียวร่างกฎหมายสกัด "no-deal Brexit"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 5, 2019 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากสภาสามัญชนของอังกฤษอนุมัติร่างกฎหมายเพื่อขัดขวางการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของอังกฤษ

เงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2212 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2085 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1032 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0966 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6798 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6760 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.40 เยน จากระดับ 105.99 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9802 ฟรังก์ จากระดับ 0.9874 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3219 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3326 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากสภาสามัญชนของอังกฤษให้การอนุมัติร่างกฎหมายป้องกันการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" ด้วยคะแนนเสียง 327 ต่อ 299 เสียง เมื่อวานนี้

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการกดดันให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ร้องขอต่อสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายกำหนดเส้นตายในการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU เป็นวันที่ 31 ม.ค.2563 จากเดิมวันที่ 31 ต.ค.นี้ หากนายจอห์นสันไม่สามารถยื่นข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ต.ค.

ส่วนในขั้นตอนต่อไปนั้น สภาสามัญชนจะยื่นร่างกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติเมื่อวานนี้ เข้าสู่การพิจารณาของสภาขุนนางต่อไป

ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการเมื่อคืนนี้ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคธุรกิจในนครนิวยอร์กปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนส.ค. หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีในเดือนก.ค.

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 2.7% สู่ระดับ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. จากระดับ 5.55 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ