ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน,ยูโร หลังเผยภาคการผลิตสหรัฐซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 1, 2019 23:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยนและยูโร หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี และหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ย.

ณ เวลา 23.05 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.31% สู่ระดับ 107.72 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.07% สู่ระดับ 117.71 เยน และดีดตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 1.0928 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.12% สู่ระดับ 99.26

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.1 ในเดือนส.ค.

ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2

ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 35 เดือน

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือนก.ค. โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต็อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โจมตีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐที่ซบเซา

"ตามที่ผมได้ทำนายไว้ นายเจอโรม พาวเวล และเฟดได้ปล่อยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินทุกสกุล ทำให้ผู้ผลิตของเราได้รับผลกระทบ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่สูงเกินไป พวกเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเขาเอง และพวกเขายังไม่รู้ตัว ช่างน่าสมเพชจริงๆ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

สื่อรายงานว่า สหรัฐเตรียมจำกัดการลงทุนในจีน และปลดบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ

อย่างไรก็ดี นางโมนิกา ครอว์ลีย์ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐ แถลงว่า ในขณะนี้รัฐบาลสหรัฐยังไม่มีแผนที่จะปิดกั้นไม่ให้บริษัทจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ

"คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีแผนที่จะห้ามบริษัทจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐในขณะนี้" นางครอว์ลีย์กล่าว แต่ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะดำเนินมาตรการอื่นๆ

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลกระทบจากการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ