ดอลลาร์ปรับตัวแคบในกรอบ 109 เยน ขณะบอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง,ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 17, 2019 22:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ปรับตัวแคบในช่วงกลางของกรอบ 109 เยน โดยนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง และตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้น

ณ เวลา 22.14 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.09% สู่ระดับ 109.59 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 122.20 เยน และดีดตัวขึ้น 0.10% สู่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.14% สู่ระดับ 97.16

การดีดตัวของตลาดหุ้นเอเชียช่วยหนุนดอลลาร์ในช่วงแรก แต่การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยจำกัดการแข็งค่าของดอลลาร์

นอกจากนี้ มุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ส่งผลให้นักลงทุนไม่ต้องการซื้อดอลลาร์จำนวนมาก

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ดอลลาร์จะดีดตัวขึ้น ตลาดจำเป็นต้องมีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับเนื้อหาในข้อตกลงการค้า รวมทั้งต้องมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือนม.ค. และหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นเจรจาทำข้อตกลงเฟสสอง

"เราจะใช้เวลาเล็กน้อยในการแปลเนื้อหาในข้อตกลงเฟสแรก และจะมีการลงนามข้อตกลงในช่วงต้นเดือนม.ค. และหลังจากนั้น เราจะเริ่มต้นเจรจาข้อตกลงเฟสสอง" นายมนูชินกล่าว

นายมนูชินเปิดเผยว่า ข้อตกลงเฟสแรกมีเนื้อหาเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยี, ทรัพย์สินทางปัญญา, การซื้อสินค้าเกษตร, การเข้าถึงภาคบริการทางการเงิน และการดำเนินการด้านปริวรรตเงินตรา

ขณะเดียวกัน ปอนด์ดิ่งลงกว่า 1% เทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังสื่อรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เกินสิ้นปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)

ทั้งนี้ สื่ออังกฤษรายงานว่า นายจอห์นสันจะเพิ่มบทบัญญัติหนึ่งเข้าไปในร่างกฎหมาย Brexit ซึ่งจะระบุห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษเกินกว่าเดือนธ.ค.2563 หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค.2563

รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกว่าระยะเวลา 11 เดือนที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ no-deal Brexit

สื่อระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลอังกฤษมีวัตถุประสงค์เพื่อกดดัน EU ในการเจรจาการค้า และเพื่อเร่งกระบวนการทำข้อตกลงการค้า

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายของ EU เหมือนกับประเทศสมาชิกอื่นๆของ EU แต่อังกฤษจะไม่มีสิทธิส่งตัวแทนเข้าไปนั่งในองค์กรต่างๆของ EU

ปัจจุบัน ช่วงการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวสามารถขยายออกไปเป็นเวลา 2 ปี หากได้รับความเห็นชอบจากทั้งอังกฤษและ EU


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ