ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของปี 2563
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.41% สู่ระดับ 108.25 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.71% สู่ระดับ 121.00 เยน และอ่อนค่า 0.29% สู่ระดับ 1.1177 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ บวก 0.31% สู่ระดับ 96.69
ก่อนหน้านี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วัน และปรับตัวซบเซาในเดือนธ.ค. ส่งผลให้ดอลลาร์ปิดตลาดในปีที่แล้วแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับต้นปี 2562
คาดว่าการซื้อขายจะยังคงเบาบางในวันนี้ ก่อนที่ตลาดการเงินส่วนใหญ่ของยุโรปจะกลับมาเปิดทำการตามปกติในวันอังคารหน้า
แม้ว่านักลงทุนบางส่วนมีความกังวลว่าดอลลาร์อาจทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเยน ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดที่เบาบาง แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดได้ช่วยขจัดความเสี่ยงดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับเจ้าหน้าที่การค้าของจีนที่ทำเนียบขาวในวันที่ 15 ม.ค. ก่อนที่จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเริ่มต้นการเจรจาการค้าเฟสสอง
ส่วนปอนด์ร่วงลงเทียบดอลลาร์และยูโร หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรหดตัวเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนธ.ค.
ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่า 0.36% สู่ระดับ 1.3206 ดอลลาร์ และปรับตัวลง 0.14% สู่ระดับ 0.8469 เทียบยูโร
ปอนด์อ่อนค่าลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค.
ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 48.9 ในเดือนพ.ย.
ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในภาวะหดตัว โดยได้หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบกว่า 7 ปี
ดัชนี PMI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานลดลงเป็นเดือนที่ 9 แม้ว่าภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่นในเดือนธ.ค.