ดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน จากปัจจัยสหรัฐ-จีนเตรียมลงนามข้อตกลงการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 13, 2020 21:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน โดยได้ปัจจัยบวกจากการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 21.22 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.35% สู่ระดับ 109.84 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.40% สู่ระดับ 122.14 เยน และอ่อนค่า 0.01% สู่ระดับ 1.1119 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.09% สู่ระดับ 97.44

นักลงทุนจับตาการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนในวันพุธนี้ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน มีกำหนดนำคณะผู้แทนการค้าของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในวันนี้ ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.

ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งมีการประกาศเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตกลงที่จะระงับแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าครั้งใหม่จากจีน และจะลดภาษีบางส่วนที่เคยประกาศใช้ก่อนหน้านี้ ขณะที่จีนได้ตกลงที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

นอกจากนี้ สื่อยังรายงานว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะจัดการประชุมทุกครึ่งปีเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า และผลักดันการปฏิรูป

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์คาดว่าสหรัฐอาจจะยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสองกับจีน จนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้

ทางด้านปอนด์ร่วงลงหลุดระดับ 1.30 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ปอนด์ยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

ณ เวลา 17.50 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่า 0.57% สู่ระดับ 1.2985 ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.51% สู่ระดับ 0.8557 เทียบยูโร

นายเกิร์ตแจน วีลิจ สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่า เขาจะลงมติสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษได้ฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ นางซิลวานา เทนเรย์โร สมาชิก MPC อีกรายหนึ่ง กล่าวเช่นกันว่า ตนสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจอังกฤษมีการชะลอตัว

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของกรรมการ MPC ทั้ง 2 รายดังกล่าว ถือเป็นการขานรับท่าทีของนายมาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ซึ่งได้ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษ

BoE ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่ปี 2559 และเป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่งที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2562

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2555 หลังจากมีการขยายตัว 1.0% ในเดือนต.ค.

นอกจากนี้ เศรษฐกิจอังกฤษหดตัว 0.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะทรงตัว

การชะลอตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในเดือนพ.ย.ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 12 ธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ