ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ หลัง ECB ตรึงดอกเบี้ย,ประกาศเดินหน้าทำ QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 24, 2020 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและประกาศเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่เงินเยนแข็งค่าเนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1055 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1092 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3117 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3133 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6841 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6843 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.52 เยน จากระดับ 109.88 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนดา ที่ระดับ 1.3128 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3143 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.9696 ฟรังก์ จากระดับ 0.9683 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% โดยเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับย้ำว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดย ECB จะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน และ ECB จะดำเนินโครงการ QE เป็นระยะเวลานานเท่าที่มีความจำเป็น และจะยุติโครงการ QE ก่อนที่ ECB จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดของทางการจีนระบุว่า ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 634 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 17 ราย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย

ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 111.2 ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ