ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก รับความหวังสหรัฐบังคับใช้มาตรการเยียวยาศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 19, 2020 07:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะบังคับใช้มาตรการเยียวยาหลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.95 เยน จากระดับ 107.82 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9694 ฟรังก์ จากระดับ 0.9614 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4559 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4227 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0872 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1000 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1596 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2094 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.5781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.5992 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 90 ต่อ 8 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "Families First Coronavirus Response Act" จะครอบคลุมถึงการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กับประชาชนสหรัฐโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ลาป่วยจากการติดเชื้อ

ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายในไม่ช้านี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถดำเนินมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ก่อนหน้านี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 1.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.599 ล้านยูนิต จากระดับ 1.624 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2562 และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ