ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศทำ QE โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 00.18 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.11% สู่ระดับ 111.32 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.62% สู่ระดับ 119.96 เยน และดีดตัวขึ้น 0.56% สู่ระดับ 1.0780 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.59% สู่ระดับ 101.88
เฟดยังระบุว่าจะเข้าซื้อหุ้นกู้ของภาคเอกชนเป็นครั้งแรก โดยจะซื้อหลักทรัพย์ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในขั้นน่าลงทุน ทั้งในและนอกตลาด รวมทั้งจะเข้าซื้อกองทุน ETFs
นอกจากนี้ เฟดจะเพิ่มวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สำหรับโครงการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ และโครงการสินเชื่อที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันที่มีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเงิน
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่าจะทำ QE โดยรวมถึงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีตราสารจำนองเชิงพาณิชย์ค้ำประกัน ซึ่งจะบ่งชี้ว่าเฟดได้ขยายการทำ QE ให้รวมถึงตราสารเชิงพาณิชย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์
การดำเนินการของเฟดเมื่อวานนี้ ถือเป็นการดำเนินการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟดเคยดำเนินการ
นักลงทุนยังจับตาวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากประสบความล้มเหลวเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ในการอนุมัติร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ กดดันให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการดังกล่าว
"คองเกรสจะต้องอนุมัติข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้ โดยไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เพราะหากยิ่งลากเวลาออกไปนานเท่าใด ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเท่านั้นในการทำให้เศรษฐกิจของเราเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่แรงงานของเราจะได้รับผลกระทบ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้
"ดิฉันคิดว่าเราสามารถมองในแง่ดีได้ว่าเราจะสามารถทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จภายในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง" นางเพโลซีกล่าว และเสริมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี
รายงานระบุว่า นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งมีวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 46,000 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 600 ราย
รัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวนกว่า 20,000 ราย ตามมาด้วยรัฐนิวเจอร์ซีย์ และวอชิงตัน