ดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนเทียบเยน และทรุดตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐอาจชะลอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน และการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ณ เวลา 22.39 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดิ่งลง 0.97% สู่ระดับ 105.81 เยน หลังจากร่วงลงแตะ 105.76 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ขณะที่ยูโรร่วงลง 0.64% สู่ระดับ 123.08 เยน และดีดตัวขึ้น 0.31% สู่ระดับ 1.1630 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.25% สู่ระดับ 94.45 หลังจากร่วงลงแตะ 94.402 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน
เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์นี้ ดอลลาร์มีแนวโน้มร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล และดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.เมื่อเทียบยูโร
นักลงทุนกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตันภายในวันนี้ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้โดยแจ้งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองเฉิงตู
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐเป็นประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2,600 รายในแต่ละชั่วโมง ขณะที่สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวนมากกว่า 4 ล้านคน
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดในสหรัฐได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 21 ม.ค. โดยหลังจากนั้นเพียง 98 วัน จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐก็พุ่งแตะระดับ 1 ล้านราย และใช้เวลา 43 วันแตะระดับ 2 ล้านราย และ 27 วันแตะ 3 ล้านราย และล่าสุดใช้เวลาเพียง 16 วันในการทำสถิติ 4 ล้านราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 43 รายทุกๆ 1 นาที
สหรัฐยังติดอันดับ 2 ของโลกในการมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดเมื่อเทียบจำนวนประชากร โดยอยู่ที่ระดับ 120 คนต่อประชากร 10,000 คน รองจากชิลี
ขณะเดียวกัน สหรัฐติดอันดับ 6 ของโลกในการมีผู้เสียชีวิตสูงสุดจากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเทียบจำนวนประชากร โดยอยู่ที่ระดับ 4.4 คนต่อประชากร 10,000 คน รองจากสหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี ชิลี และฝรั่งเศส โดยขณะนี้สหรัฐมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 143,000 ราย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยคาดว่าจะมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปีนี้ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี มาตรการจ่ายเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์สำหรับผู้ว่างงานจะสิ้นสุดลงในเดือนนี้ ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจะขยายมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ว่างงานต่อไป แต่ในวงเงินที่ลดลงเหลือเพียง 100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์