ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเยน หลังนายกฯญี่ปุ่นประกาศลาออก

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday August 29, 2020 08:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) ขณะที่เยนแข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความระมัดระวังในการซื้อขายหลังจากนายชินโซ อาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานานด้วย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.69% แตะที่ 92.3711 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.41 เยน จากระดับ 106.61 เยน, เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าสู่ระดับ 0.9050 ฟรังก์ จากระดับ 0.9087 ฟรังก์ และดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3094 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3128 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1890 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1821 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3341 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3204 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7356 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7258 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมทั้งยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

ส่วนเยนแข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังนายอาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันศุกร์ อันเนื่องมาจากปัญหาด้านสุขภาพ อย่างไรก็ดี นายอาเบะจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่ารัฐบาลจะสามารถสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจีระบุว่า ความกังวลที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่จะยุติการใช้นโยบาย "อาเบะโนมิกส์" หลังสิ้นสุดยุคการบริหารประเทศของนายอาเบะนั้น จะส่งผลให้เยนมีทิศทางแข็งค่าขึ้นต่อไป โดยคาดว่าจะแตะระดับ 102 เมื่อเทียบดอลลาร์ในปลายปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ