ดอลลาร์ร่วง เก็งสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 21, 2021 23:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้

ณ เวลา 23.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.02% สู่ระดับ 103.54 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.38% สู่ระดับ 125.77 เยน และดีดตัวขึ้น 0.37% สู่ระดับ 1.215 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.34% สู่ระดับ 90.17

นักลงทุนมีความหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่นายโจ ไบเดนได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ นายไบเดนได้นำเสนอมาตรการ "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, การเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยจะขยายโครงการช่วยเหลือดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.

นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของนายไบเดน มิฉะนั้น เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยที่ยาวนาน และประสบความเสียหายในระยะยาว

นางเยลเลนยังระบุว่า รัฐบาลของนายไบเดนจะให้ความสำคัญต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าการปรับเพิ่มอัตราภาษี โดยประโยชน์จากการออกมาตรการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จะมีมากกว่าค่าใช้จ่ายจากภาระหนี้ที่สูงขึ้น

ทางด้าน ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันนี้ ขณะที่ ECB ยังคงจับตาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน หรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว จนกว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งระบุให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกิน 2%"

นอกจากนี้ ECB มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2565 หรือจนกระทั่ง ECB พิจารณาว่าวิกฤตการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ