ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าขานรับ PMI ยูโรโซนแข็งแกร่ง ตลาดจับตาประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 27, 2021 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคผลิตและภาคบริการขยายตัวรวดเร็วสุดในรอบกว่า 20 ปี ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.28% แตะที่ 92.6487 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1770 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3813 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3752 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7378 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7364 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.37 เยน จากระดับ 110.55 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9160 ฟรังก์ จากระดับ 0.9202 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2548 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2575 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ภาคธุรกิจของยูโรโซนขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 20 ปีในเดือนก.ค. เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ได้กระตุ้นภาคบริการ

ทั้งนี้ ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการขั้นต้น เพิ่มขึ้นแตะที่ 60.6 ในเดือนก.ค. จากระดับ 59.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2543 และสูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 60.0

นักลงทุนจับตาการแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันพุธที่ 28 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค.ตามเวลาไทย และจากนั้นจะเป็นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด

ก่อนหน้านี้ นายพาวเวลได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้ก็ตาม

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 6.6% สู่ระดับ 676,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 800,000 ยูนิต

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ราคาบ้านเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ