ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (20 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.37% แตะที่ระดับ 107.0760
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0179 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0234 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1967 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1998 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6886 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6896 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 138.25 เยน จากระดับ 138.21 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9719 ฟรังก์ จากระดับ 0.9690 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2878 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2882 ดอลลาร์แคนาดา
นักลงทุนจับตาผลการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่สื่อรายงานว่าเจ้าหน้าที่ ECB กำลังพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25%
ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนที่แล้ว แต่ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุด สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2543 โดยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.4% สู่ระดับ 5.12 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน