ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง และทำให้นักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงมากกว่าดอลลาร์
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.11% แตะที่ระดับ 104.3250
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3597 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3656 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.5168 โครนา จากระดับ 10.4713 โครนา และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 132.89 เยน จากระดับ 132.35 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9340 ฟรังก์ จากระดับ 0.9311 ฟรังก์
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0619 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0596 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2041 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2038 ดอลลาร์
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นและสัญญาน้ำมันดิบบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นในตลาดปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสกุลเงินปลอดภัย อาทิ ดอลลาร์
สกุลเงินของประเทศส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นมากที่สุด นอกจากนี้ ดอลลาร์แคนาดายังได้แรงหนุนจากการที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 2.3% ด้วย
บรรดานักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังการเปิดเผยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.7 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นและตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 59.1 หลังจากแตะระดับ 56.8 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าระดับ 4.9% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว
สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.9% ต่ำกว่าระดับ 3.0% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน