ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับจ้างงานแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 2, 2023 21:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.63% สู่ระดับ 105.14 ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัว 0.74% สู่ระดับ 1.059 เทียบยูโร และแข็งค่า 0.65% สู่ระดับ 137.05 เยน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 190,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 195,000 ราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และอยู่ต่ำกว่าระดับ 200,000 รายติดต่อกันเป็นเวลา 7 สัปดาห์

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 1.65 ล้านราย

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนก.ย. รวมทั้งเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดต่างแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินไปจนถึงปี 2567 ขณะที่การต่อสู้กับเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป

"ประวัติศาสตร์สอนเราว่า ถ้าเราผ่อนคลายการดำเนินการกับเงินเฟ้อก่อนที่มันจะหมดฤทธิ์ลง มันก็จะปะทุขึ้นมาใหม่ ทำให้เราต้องพิจารณาให้ดีว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงโดยไม่ย้อนกลับขึ้นมาอีก ซึ่งตอนนี้เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น" นายบอสติกกล่าว

นอกจากนี้ นายบอสติกกล่าวว่า เฟดจะต้องหาจุดสมดุลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับที่สามารถชะลออุปสงค์และสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็จะต้องไม่กระทบเศรษฐกิจจนทำให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

ด้านนายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เขาเปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.

นอกจากนี้ นายแคชแครีกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจำเป็นต้องสูงกว่าระดับ 5.4% ที่เขาคาดการณ์ไว้ในเดือนธ.ค.2565

"ผมคิดว่ากรรมการเฟดท่านอื่นเห็นด้วยกับผมที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินที่น้อยเกินไปมีความเสี่ยงมากกว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินที่มากเกินไป และเนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังไม่ได้ชะลอตัวลงตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ผมจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต" นายแคชแครีกล่าวว่า

ถ้อยแถลงของนายแคชแครีสอดคล้องกับความเห็นของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. และเชื่อว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่ทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ