ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขานรับตัวเลขจ้างงานแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 6, 2024 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (5 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน แข็งค่า 0.01% แตะที่ 102.44 หลังแตะระดับสูงถึง 103.10 เยน

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเยนที่ 144.655 เยน หลังปรับตัวขึ้นสูงถึง 145.98 เยนซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับเยนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.09405 ดอลลาร์ และลดลง 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. และยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด และในรอบสัปดาห์นี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. 2566

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8%

ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาดนั้นสอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนที่สูงกว่าคาด และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ และการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. 2567

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักมากถึง 72.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ