อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 5% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 18.51 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.461% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.930%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% ในการซื้อขายวานนี้ หลังจากที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจากการที่มูดี้ส์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ มูดี้ส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ จากระดับ Aaa สู่ระดับ Aa1 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้สาธารณะและภาระดอกเบี้ยของสหรัฐ
การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐส่งผลให้ชาวอเมริกันต้องแบกรับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตต่างก็ปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเฟดต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ และความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเดือนมี.ค. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี นายบอสติกกล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลกระทบมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีนี้
"สำหรับผมแล้ว ผมคาดว่าจะต้องใช้เวลานาน กว่าที่เรื่องนี้จะคลี่คลาย โดยผมคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ เพราะผมคิดว่ามันจะต้องใช้เวลา และหลังจากนั้นเราก็คงต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป"
"ผมกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเงินเฟ้อ เพราะเรากำลังเห็นคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวไปยังทิศทางที่น่ากังวล ซึ่งจะทำให้การทำงานของเรายากขึ้น" นายบอสติกกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC