บอนด์สหรัฐร่วง สวนทางหุ้นพุ่ง หลังเผยจีดีพีแกร่ง,เฟดเล็งขึ้นดบ.

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวมากกว่าคาดในไตรมาส 2 ก็ได้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

การร่วงลงของพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปีส่งผลให้อัตราผลตอบแทนดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.182% ในวันนี้ จาก 2.125% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

นางเยลเลนระบุวานนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตราบใดที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน

นางเยลเลนแสดงความคิดเห็นดังกล่าวที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะบรรยายในหัวข้อ "พลวัตเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน" หรือ " Inflation Dynamics and Monetary Policy"

ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดที่จะประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งได้แก่ ช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. และวันที่ 15-16 ธ.ค.

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ หลังจากร่วงลงเป็นเวลา 3 วัน โดยตลาดปรับตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวมากกว่าคาดในไตรมาส 2 รวมทั้งจากการที่นางเยลเลนส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้น 170.97 จุด หรือ 1.04% สู่ระดับ 16,372.26 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายสำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 3.9% โดยสูงกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.7%

การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งขณะเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีจะมีการขยายตัว 3.7% ในไตรมาส 2

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ประเมินตัวเลขจีดีพีขั้นต้นสำหรับไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.3% ในเดือนก.ค. ก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มตัวเลขดังกล่าวขึ้นอีก 2 ครั้ง