พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ จากการที่นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ดัชนี S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และญี่ปุ่นมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
การร่วงลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.503% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี พุ่งแตะระดับ 2.234% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แจ้งให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่พรรคร่วมรัฐบาลสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาสูงในวันอาทิตย์
นายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้พบปะกับนายอาเบะที่กรุงโตเกียวในวันนี้ และได้กล่าวสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า เขาจะเฝ้ารอดูความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาเงินฝืด และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมามีความแข็งแกร่ง
ทางด้านนายอาเบะกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมที่จะดำเนินการอย่างจริงจัง ขณะที่ญี่ปุ่นมาถึงครึ่งทางในการออกจากภาวะเงินฝืด
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะทำการผ่อนคลายนโยบายในการประชุมเดือนนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,350.20 จุด เพิ่มขึ้น 123.27 จุด หรือ 0.68%
ดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 2,150.03 จุด บวก 12.91 จุด หรือ 0.60%
ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ต่างก็ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้