บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งนิวไฮ 10 ปี หลังเผยยอดค้าปลีกแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2018 22:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง

ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.869% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.977% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ทะยานสู่ระดับ 2.607%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. โดยสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว

ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าอื่นๆ

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมิ.ย.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์นี้ โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธ

อย่างไรก็ดี สื่อได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายพาวเวล ก่อนที่เขาจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ

เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงปลายปี 2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ในระดับซึ่งจะจำกัดการขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่เหนือระดับที่เป็นกลางในช่วงเวลาดังกล่าว

มุมมองของเฟดดังกล่าวสอดคล้องกับคำกล่าวของนายพาวเวลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในสภาวะสดใส โดยมาตรการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อไปอีก 3 ปี

รายงานของนายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากนัก เพียงแต่ระบุว่าความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าสหรัฐเป็นปัจจัยสร้างความวิตกต่อตลาดการเงิน

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลยังบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความกังวลมากนักเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยระบุว่าตลาดพันธบัตรค่อนข้างมีเสถียรภาพ และแทบไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ก็จะเพิ่มความเปราะบางต่อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ