บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวไร้ทิศทาง ขณะนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 17, 2018 23:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 23.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.858% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.964%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

นายพาวเวลกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเขากล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วเพียงพอที่จะทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้

นายพาวเวลเปิดเผยว่า เฟดมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม

นายพาวเวลระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางการคลัง, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, การลงทุนในภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ

นายพาวเวลยังกล่าวว่า ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 2% ในไตรมาสแรก แต่ก็คาดว่าการขยายตัวในไตรมาส 2 จะสูงกว่าไตรมาสแรกอย่างมาก

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังคาดว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งในช่วงหลายปีข้างหน้า ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

ประธานเฟดระบุว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4% ซึ่งสอดคล้องกับระดับซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นระดับที่ใกล้กับการจ้างงานเต็มศักยภาพ ขณะที่ค่าจ้างดีดตัวขึ้นมากกว่าในปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงมากนักเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า เพียงแต่กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ทิศทางนโยบายการค้าสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ