"เบสเซนต์" เมินมูดี้ส์หั่นเครดิตสหรัฐฯ เหน็บเป็นแค่ดัชนีบ่งชี้ที่ล้าหลัง

ข่าวต่างประเทศ Monday May 19, 2025 14:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงความกังวลต่อการที่มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody's Ratings) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยมูดี้ส์ระบุถึงสาเหตุที่มาจากหนี้สินสาธารณะและการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล

เบสเซนต์กล่าวกับผู้ดำเนินรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีในวันอาทิตย์ (18 พ.ค.) ว่า "มูดี้ส์เป็นดัชนีชี้วัดที่ล้าหลัง นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิดเกี่ยวกับบรรดาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ"

"สถานการณ์นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 100 วันที่ผ่านมา แต่เป็นผลพวงมาจากรัฐบาลไบเดนและการใช้จ่ายตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราได้รับช่วงมา เรามุ่งมั่นที่จะลดการใช้จ่ายลงและผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต" เบสเซนต์กล่าวกับผู้ดำเนินรายการ

ทั้งนี้ มูดี้ส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ Aaa ลงมาอยู่ที่ Aa1 เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) โดยระบุในแถลงการณ์ว่า "การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงหนึ่งขั้นสะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้สาธารณะและภาระดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้อยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีอันดับใกล้เคียงกันอย่างมาก"

มูดี้ส์ระบุว่า รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ หลายชุดที่ผ่านมาไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการที่จะหยุดปัญหาการขาดดุลงบประมาณรายปีจำนวนมากและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับระบุว่า มูดี้ส์ไม่เชื่อว่าแผนงบประมาณปัจจุบันจะสามารถลดการใช้จ่ายของรัฐบาลหรือลดการขาดดุลงบประมาณได้อย่างมากในระยะยาว โดยในช่วง 10 ปีข้างหน้า มูดี้ส์คาดว่าการขาดดุลงบประมาณจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายสำหรับโครงการสวัสดิการต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ของรัฐบาลยังคงอยู่ใกล้เคียงระดับเดิม

ในการให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซีครั้งนี้ เบสเซนต์ไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อบริษัทต่าง ๆ รวมถึงวอลมาร์ท อิงค์ (Walmart Inc) โดยเขากล่าวว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งมั่นที่จะลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เบสเซนกล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับ ดัก แมคมิลลอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวอลมาร์ทเมื่อวันเสาร์ (17 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีที่วอลมาร์ทส่งสัญญาณเมื่อไม่นานมานี้ว่า ทางบริษัทจะปรับขึ้นราคาเนื่องจากผลกระทบของภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ เบสเซนต์กล่าวว่า "ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ได้ระบุว่ามาตรการภาษีศุลกากรจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ พวกเขากำลังบอกว่าพวกเขาไม่แน่ใจและกำลังอยู่ในท่าทีของการรอดูสถานการณ์"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ