ฟิทช์ เรทติ้งส์เตือนว่า ฟิทช์อาจจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของจีนซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ A+ ซึ่งคำเตือนดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดการเงินของจีน นายเจมส์ แมคคอร์แมค กรรมการผู้จัดการและหัวหน้ากลุ่มจัดอันดับเครดิตประเทศของฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า "หากรัฐบาลจีนทำการขยายงบดุลบัญชีเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เราก็อาจจะทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ระดับ A"
"ที่ผมพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้พิจารณาถึงหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นเมื่อไม่นานมานี้ แต่เราเล็งเห็นว่าหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชนและภาคธนาคารของจีนอาจจะกลายเป็นหนี้สินที่แท้จริงของรัฐบาลจีน"
"อันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพของจีนที่ระดับ A+ นั้น ถือเป็นหนึ่งในการคงอันดับที่ยาวนานที่สุดของฟิทช์ โดยฟิทช์ได้ให้อันดับ A+ กับจีนมาตั้งแต่ปี 2550 ส่วนปัจจัยที่จะทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของจีนเปลี่ยนแปลงไป คือการที่เราพบหลักฐานเพิ่มขึ้นว่า ปัญหาหนี้สินกำลังลุกลามไปยังภาคส่วนอื่น ๆ" นายแมคคอร์แมคกล่าว
การแสดงความเห็นของนายแมคคอร์แมคมีขึ้น หลังจากที่ฟิทช์เพิ่งจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก
ทั้งนี้ นักลงทุนมักจะพึ่งพาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาในการซื้อหุ้นกู้ และการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือก็มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจว่าผู้ที่ออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนในตลาดทุนนั้นจะให้ผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ยได้มากเท่าใด
สำหรับเศรษฐกิจจีนนั้น นักลงทุนทั่วโลกได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างเปราะบาง หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังหลายรายการเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งแต่ยอดค้าปลีกไปจนถึงราคาบ้าน