นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมพรุ่งนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันอย่างหนักให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม กันยายน และตุลาคม
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย.
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ค., ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนต.ค.
ปธน.ทรัมป์เรียกร้องอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 พ.ค.) ให้นายพาวเวลปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดีกว่าคาดในเดือนเม.ย.
"เหมือนกับที่ผมเคยพูดไว้ เรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้บริโภคได้รอคอยเป็นเวลาหลายปีที่จะเห็นราคาปรับตัวลง ไม่มีเงินเฟ้อ เฟดควรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง!!!" ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ขู่ที่จะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หลังจากที่การดำเนินการดังกล่าวก่อนหน้านี้ได้สร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน จนทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งอาจถูกแทรกแซงจากปธน.ทรัมป์