ผู้พิพากษา เจีย คอบบ์ ได้ทำการไต่สวนในวันนี้ เกี่ยวกับคำร้องของนางลิซา คุก สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ต้องการให้ศาลระงับคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการปลดเธอออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ นางคุกได้ยื่นฟ้องต่อศาลวานนี้ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากคำสั่งของปธน.ทรัมป์ในการปลดเธอออกจากตำแหน่ง ระหว่างที่คดีกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
คำสั่งปลดของปธน.ทรัมป์มีขึ้นจากการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่าจะดำเนินการสอบสวนนางคุก ภายหลังจากที่นายบิล พัลท์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลสหรัฐ (FHFA) ได้โพสต์ข้อความบน X ระบุว่า นางคุกได้กู้เงินจาก FHFA เพื่อซื้อบ้านในรัฐมิชิแกน โดยระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แต่ต่อมาเธอได้กู้เงินอีกครั้งหนึ่งเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในแอตแลนตา และแจ้งว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน
นายพัลท์ระบุว่า นางคุกให้ข้อมูลเท็จดังกล่าวเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสิทธิพิเศษจากอัตราดอกเบี้ยที่ FHFA มอบให้สำหรับที่อยู่อาศัยหลักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
นายแอบบี โลเวลล์ ทนายความของนางคุก โจมตีข้อโต้แย้งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐที่ระบุว่า ปธน.ทรัมป์มีเหตุผลทางกฎหมายเพียงพอในการปลดนางคุกออก เนื่องจากคำกล่าวหาของนายบิล พัลท์ ที่อ้างว่านางคุกเคยทำการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ก่อนเข้ารับตำแหน่งในเฟด
นายโลเวลล์กล่าวต่อผู้พิพากษาคอบบ์ว่า "คุณไม่สามารถเอาทวีตตอนเที่ยงคืนของนายพัลท์มาบอกว่าเป็นเหตุผลได้"
ด้านทนายความจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของปธน.ทรัมป์ในการตัดสินว่าเขามีเหตุผลทางกฎหมายเพียงพอที่จะปลดผู้ว่าการเฟดหรือไม่
อย่างไรก็ดี หลังการพิจารณาเกือบสองชั่วโมง ผู้พิพากษาคอบบ์ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อคงตำแหน่งของนางคุกหรือไม่
นางคุก ซึ่งเป็นสตรีผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเฟด ยืนยันว่าปธน.ทรัมป์ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะปลดเธอออก โดยเธอได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนในปี 2565 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 14 ปีจนถึงเดือนม.ค.2581