คณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนท่าทีไปในทางสายเหยี่ยวมากขึ้น หลังรายงานสรุปผลการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย. ที่เปิดเผยในวันนี้ (30 ก.ย.) ระบุว่า กรรมการหลายคนได้ถกเถียงถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ และบางส่วนเชื่อว่าช่วงเวลาดังกล่าวอาจมาถึงแล้ว
รายงานการประชุมยังสะท้อนให้เห็นว่า กรรมการส่วนใหญ่แสดงความกังวลต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มที่ BOJ อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. ที่จะถึงนี้
มีกรรมการรายหนึ่งเสนอว่า "หากมองเฉพาะปัจจัยเศรษฐกิจในญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว ก็อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังจากที่เราเว้นช่วงมานานกว่า 6 เดือนแล้ว"
ขณะที่อีกความเห็นหนึ่งชี้ว่า เมื่อความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายภาษีของสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายลง BOJ ก็มีพื้นที่มากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
ย้อนไปในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ก.ย. ที่ผ่านมา แม้ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% แต่ก็เกิดปรากฏการณ์เสียงแตก เมื่อกรรมการ 2 ใน 9 คน คือ ฮาจิเมะ ทาคาตะ และนาโอกิ ทามูระ ได้โหวตสวนมติ โดยเสนอให้ขึ้นดอกเบี้ยไปที่ 0.75%
การโหวตสวนของกรรมการทั้งสองถูกตลาดตีความว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงการขึ้นดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ สอดคล้องกับสุนทรพจน์ของอาซาฮิ โนกุจิ กรรมการสายพิราบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ซึ่งยอมรับว่าความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย "มีมากกว่าที่เคยเป็นมา"
สถานการณ์ล่าสุดส่งผลให้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสถึง 60% ที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 29-30 ต.ค. นี้ โดยสิ่งที่ตลาดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดคือ รายงานความเชื่อมั่นทางธุรกิจ "ทังกัน" (Tankan) ที่จะเปิดเผยในวันพุธ (1 ต.ค.) และสุนทรพจน์ของคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ในวันศุกร์ (3 ต.ค.) ซึ่งอาจให้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวะเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่กรรมการทุกคนที่เห็นด้วยกับการเร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยมีกรรมการบางส่วนที่ยังคงต้องการความระมัดระวัง โดยให้เหตุผลว่าอุปสงค์ในประเทศของญี่ปุ่นยังคงเปราะบางต่อปัจจัยภายนอก จึงยังไม่สายเกินไปที่จะรอประเมิน "ข้อมูลจริงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย" ก่อนตัดสินใจ
"เราควรหลีกเลี่ยงการขึ้นดอกเบี้ยในตอนนี้ เพราะจะเป็นการสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด" อีกหนึ่งความเห็นระบุในประเด็นเงินเฟ้อ กรรมการหลายคนมองเห็นแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น โดยชี้ว่าภาคธุรกิจยังคงเดินหน้าปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ว่าต้นทุนการนำเข้าลดลงแล้วก็ตาม ซึ่งสะท้อนว่าการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมวดอาหาร มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ รายงานสรุปความคิดเห็นของ BOJ ที่เผยแพร่ออกมาไม่มีการระบุชื่อว่าความเห็นใดเป็นของกรรมการท่านใด