คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวย้ำถึงความพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและราคาสินค้า หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75% ซึ่งสูงสุดในรอบ 30 ปีไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อุเอดะออกมาเน้นย้ำเรื่องนี้หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่า BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (19 ธ.ค.) โดยกลุ่มผู้ค้าเงินตราต่างประเทศมองว่า สาเหตุที่เงินเยนยังคงร่วงลงเป็นเพราะตลาดคาดการณ์ว่า BOJ อาจขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าที่คิด เนื่องจากอุเอดะไม่ได้ระบุช่วงเวลาหรือจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจนในการแถลงข่าวครั้งก่อน
ในวันนี้ อุเอดะจึงได้ชี้แจงทิศทางนโยบายอีกครั้งในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยระบุว่าแนวโน้มที่ค่าจ้างและราคาสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นจะยังคงมีต่อเนื่องในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเชิงนโยบาย
"เนื่องจากตลาดแรงงานตึงตัว ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทต่าง ๆ จึงเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกำหนดราคาและค่าจ้างอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การบรรลุเป้าหมายเสถียรภาพราคาที่ 2% ควบคู่ไปกับการปรับเพิ่มค่าจ้างนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ" อุเอดะกล่าวนอกจากนี้ ผู้ว่าการ BOJ ยังชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังถือว่าต่ำมาก และยืนยันว่าหากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดไว้ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป เพราะเชื่อว่าการทยอยลดระดับการผ่อนคลายทางการเงินจะช่วยสนับสนุน "การเติบโตในระยะยาว" และสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อที่แท้จริง (Underlying Inflation) ซึ่งไม่นับรวมปัจจัยชั่วคราวและต้นทุนที่ผันผวน จะเข้าสู่ระดับเป้าหมาย 2% ได้ในช่วงครึ่งหลังของแผนดำเนินงาน 3 ปี ซึ่งครอบคลุมไปจนถึงเดือนมี.ค. 2571