การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการ QE เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เฟดได้ประกาศใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเฟดเล็งเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นปานกลาง
ทั้งนี้ เฟดเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน คิดเป็นวงเงินทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วยการฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลงราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่า สถานการณ์ด้านการจ้างงานจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เฟดนำมาพิจารณาเรื่องระยะเวลาการปรับลดขนาดโครงการ QE