สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของภาคธนาคารสเปนได้ปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค.2555 และก.พ.2556 หลังจากธนาคารที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้โอนหนี้เสียจากภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กับธนาคารบริหารหนี้เสีย (bad bank)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศเมื่อปี 2551 ได้โอนหนี้เสียไปให้กับ bad bank ซึ่งทำหน้าที่คัดแยกสินทรัพย์ที่มีปัญหาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ออกจากสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดยสเปนถูกกำหนดเงื่อนไขให้จัดตั้ง bad bank ขึ้นเพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือทางการเงินจำนวน 4 หมื่นล้านยูโรจากสหภาพยุโรป (อียู)
อย่างไรก็ตาม หลังจากโอนหนี้แล้ว สัดส่วนหนี้เสียได้กลับมาเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสูงกว่าสถิติสูงสุดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2537 ซึ่งในครั้งนั้นสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 9.15%
ขณะเดียวกัน พอร์ตสินเชื่อรวมของสเปนลดลง 1.73 พันล้านยูโรนับตั้งแต่เดือนก.ค. สู่ระดับ 1.49 ล้านล้านยูโรในเดือนส.ค. ในขณะที่ร่วงลงกว่า 12.17% จากช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะเพิ่มขึ้นในเดือนต่อๆไป เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง และเงินเดือนที่ลดลง ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นที่ชาวสเปนจะสามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ (1 ยูโร = 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ)