สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บอร์ดบีโอเจมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางจะดำเนินการเพื่อเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้คงระดับการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ผลการสำรวจความคิดเห็นบริษัทขนาดใหญ่รายไตรมาส หรือผลสำรวจทังกันที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากคาดว่า บรรยากาศทางธุรกิจจะย่ำแย่ลงในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกไม่มีความแน่นอนก็ตาม
แถลงการณ์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและปรับตัวดีขึ้นในวงกว้าง ขณะเดียวกันธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มมุมมองที่มีต่อการจ้างงานและรายได้ โดยชี้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้แข็งแกร่ง
สำหรับเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจนั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้อ้างถึงผลถึงผลกระทบจากการขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเม.ย.ปีหน้าว่า เศรษฐกิจภายในประเทศอาจจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และส่งผลสืบเนื่องให้อุปสงค์อ่อนแอทั้งก่อนและหลังการขึ้นภาษี แต่อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางยังคงมุมมองคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังคงฟื้นตัวขึ้นปานกลาง
ส่วนประเด็นเรื่องราคา ธนาคารกลางระบุว่าการเปลี่ยนแปลงรายปีของดัชนีราคาผู้บริโภคจะอยู่ที่ประมาณ 1% หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค.ขยายตัว 0.9% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากราคาพลังงานและสินค้าอื่นๆปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าบอร์ดธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้หารือในเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากการตัดสินใจลดวงเงินซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านนโยบายในช่วงหลังวิกฤตการเงินปี 2551 โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจมีกำหนดจะแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมในวันนี้