ปธ.เฟดบอสตันชี้เฟดควรลด QE อย่างช้าๆ หากศก.ฟื้น แม้ยังห่วงตลาดแรงงาน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 8, 2014 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า ความวิตกเกี่ยวกับตลาดแรงงานในระยะยาว ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่เชื่องช้าอย่างมากนั้น ทำให้เขาเชื่อว่าเฟดควรยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป และควรปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.นั้น เฟดมีมติลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงเหลือ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. 2557 และหากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้

นายโรเซนเกรนคือผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจลดขนาด QE ดังกล่าวของเฟด โดยเขาเชื่อว่า ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับสูงและอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมายนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงโครงการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว จนกว่าข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยได้บ่งชี้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ยั่งยืนเหนือศักยภาพ

นายโรเซนเกรนได้กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดแรงงานปัจจุบันว่า เขาไม่เชื่อมั่นมากนักว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งตามที่ข้อมูลว่างงานบ่งชี้ ขณะที่มีรายงานอัตราว่างงานในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 7% นั้น เขามองว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับภาวะการจ้างงานอย่างเต็มที่ในสหรัฐตามที่เขาได้ประเมินไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประธานเฟดบอสตันได้กล่าวเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร แต่นายโรเซนเกรนเน้นย้ำว่าเขามีมุมมองบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และระบุว่าเขากำลังเห็นสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการขยายตัวที่ 3%

นายโรเซนเกรนกล่าวว่า หากเศรษฐกิจเติบโตที่ 3% อัตราว่างงานก็น่าจะลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อควรจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และภายใต้ภาวการณ์ดังกล่าว ก็นับเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในการที่จะปรับลดมาตรการ QE อย่างช้าๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ