สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารด้านนโยบายทั้ง 9 รายของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า บีโอเจจะยังคงดำเนินการในตลาดเพื่อเพิ่มฐานเงินที่อัตราประมาณ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี
บีโอเจได้คงการประเมินทางเศรษฐกิจต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยระบุว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่น “ยังคงฟื้นตัวปานกลางตามแนวโน้ม" แม้ว่าอุปสงค์ได้ปรับตัวลงนับตั้งแต่การปรับขึ้นภาษีการบริโภค
การประชุมกำหนดนโยบายของบีโอเจในครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายส่วนบุคคลหดตัวลงในเดือนเม.ย. หลังจากที่อุปสงค์พุ่งขึ้นก่อนการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว
ทั้งนี้ บีโอเจได้ปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในด้านทุน โดยระบุว่า มีการเพิ่มขึ้นปานกลาง เนื่องจากผลกำไรภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 19.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 9.367 แสนล้านเยน
บีโอเจประเมินว่าว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่น “จะยังคงฟื้นตัวปานกลางต่อไป ตามแนวโน่ม แต่จะได้รับผลกระทบจากการลดลงของอุปสงค์ นับตั้งแต่ที่มีการปรับขึ้นภาษีการบริโภคสู่ระดับ 8%"
นอกจากนี้ บีโอเจระบุว่า ยังคงมีความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง ความเคลื่อนไหวในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ แนวโน้มปัญหาหนี้ของยุโรป และอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ